การมีใบขับขี่รถยนต์ ไว้ครอบครอง มีความสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับหลายคน ที่ย้ายมาอยู่ที่ฮอลแลนด์ แต่ใบขับขี่ที่เราเคยมีจากเมืองไทย พี่ดัตช์ เค้าไม่ยอมให้เราเทียบโอนได้นี่ล่ะซิ เราจึงต้องมาเรียนรู้กันใหม่ ทั้ง 2 ส่วน คือ ภาคทฤษฎี (Theorie-examen) และ ภาคปฏิบัติ (Praktijkexamen) แน่ละจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและกระเป๋าเงิน การสอบให้ผ่านในครั้งเดียว จึงเป็นความตั้งใจของแอนว่า จะต้องทำให้ได้ เพราะถ้าสอบภาคทฤษฎีไม่ผ่าน ก็จะไม่สามารถขอสอบภาคปฏิบัติได้ และในบทความนี้ มีเคล็ด (ไม่) ลับ ส่วนตัว มาบอกเล่ากันว่า ทำอย่างไรแอนถึงสอบภาคทฤษฎีผ่านในครั้งเดียว
ก่อนจะลงไปถึงตรงนั้น อยากให้มาทำความเข้าใจคร่าวๆกับการสอบขับรถภาคทฤษฎีเป็นอย่างไรเราจะเจออะไรกันบ้าง เราจะได้ทำข้อสอบบนจอคอมพิวเตอร์ ในการสอบปกติ ใช้เวลา 30 นาที และประกอบด้วย 2 ส่วน
Gevaarherkenning
25 ข้อ
ผิดได้ 12 ข้อ มีเวลาให้เราตอบแต่ล่ะข้อ แค่ 8 วินาที คำถามจะเลื่อนอัตโนมัติเมื่อหมดเวลาในแต่ละข้อ ไม่สามารถย้อนกลับมาเปลี่ยนซึ่งเป็นการทดสอบความรวดเร็วในการตัดสินใจของเราต่อสถานการณ์ที่ให้มา
verkeersregels&verkeerinzicht
40 ข้อ
ผิดได้แค่ 5 ข้อ เป็นการทดสอบความรู้และความเข้าใจจริงของกฎจราจรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายจราจร สิทธิในการได้ใช้ทาง ความเร็วในการใช้ถนนแต่ละประเภท เป็นต้น ถ้ามีเวลาเหลือ สามารถย้อนกลับมาตรวจทาน แก้ไขคำตอบได้
เทคนิคการเรียนและการทำข้อสอบไว้แอนจะเขียนให้ในบทความอื่นๆนะคะ เอาล่ะ มาเข้าเรื่องเคล็ดลับที่จะทำให้สอบผ่านในครั้งเดียวของเรากันดีกว่า
TIP #1 ขีดเส้นตาย
วางแผนสอบล่วงหน้าจากการขีดเส้นตายกำหนดวันสอบเลย
การที่เรากำหนดวันสอบเลยจะทำให้เรามีความจริงจัง และมีการวางแผนการเตรียมตัวที่ชัดเจน ง่ายๆคือขีดเส้นตายเอาไว้ ฟังดูเหมือนจะเร่งรัดแต่ว่ามันใช้ได้ผลกับแอนจริงๆ ไม่ว่าจะทดสอบหรือเตรียมตัวสอบเรื่องอะไรก็แล้วแต่แอนใช้วิธีนี้ตลอด ส่วนตัวแล้วแอนใช้เวลาจริงจังประมาณ 1 เดือนครึ่ง สำหรับเตรียมสอบภาคทฤษฎี เอาตามที่เพื่อนๆสะดวกนะคะ ไม่ต้องเร่งรัดแบบแอนก็ได้แต่วางแผนไว้สัก 3 เดือน หรือ 2 เดือนอันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดเลยค่ะประเด็นคือตั้งเป้าหมายและวางแผนย้อนกลับมาเราจะได้วางแผนไว้ในแต่ละวันเราต้องทำอะไรต้องอ่านให้จบถึงแค่ไหนต้องทำแบบฝึกหัดเร็วแค่ไหนอะไรอย่างนี้ค่ะเป็นต้น
TIP #2 ดูจริตตัวเอง
เลือกวิธีเรียนที่เข้ากับจริตของตัวเอง
แอนเลือกสอบเป็นภาษาดัตช์ และเนื่องจากภาษาที่ใช้ในหนังสือเตรียมสอบภาคทฤษฎีเป็นภาษาทางการ เป็นภาษากฎหมายมีคำศัพท์เฉพาะเยอะในบางหัวข้อ เวลาแอนเปิดอ่านทีไร จะหลับไปทุกที ส่วนตัวเลยเลือกใช้ในการเรียนแบบเร่งรัดคือเตรียมตัวเพื่อสอบ โดยใข้เทคโนโลยีเข้าช่วย คือเรียนจาก apps เว็บไซต์และซื้อชั่วโมงจากโรงเรียนติวสรุปแบบออนไลน์ และอ่านหนังสือควบคู่กันไปด้วยเพิ่มเติม มีเพื่อนๆบางคนแนะนำว่าให้ทำแบบฝึกหัดเลยไม่ต้องอ่านแต่ส่วนตัว แอนว่าทำความเข้าใจไปซักนิดนึงแล้วไปทำแบบฝึกหัดก็จะยิ่งเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เริ่มแรกคือ แอนเรียนป้ายจราจรทำความเข้าใจอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์โดยใช้ app นะคะ download app จากมือถือของเรานี่ล่ะ มีให้เลือกหลายเว็บไซต์ หลายแอปเลย แอนทำความเข้าใจอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ผ่านapp นะคะ
พร้อมกับซื้อชั่วโมงเข้าไปติวออนไลน์ 1 อาทิตย์ ลักษณะคล้ายกับที่หลายคนคงเคยได้ยิน โรงเรียนติวและพาไปสอบภายใน1วัน แต่แอนซื้อคอร์สเรียนแบบผ่านออนไลน์ แบบ 1สัปดาห์ แอนว่าสะดวกดี ถูกกว่า และจะย้อนกลับมาดูกี่รอบก็ได้ ภายในชั่วโมงที่ซื้อเอาไว้ คำศัพท์ไหนไม่เข้าใจ ก็กดหยุดและเปิดหาความหมาย จดโน้ตย่อ สรุปของเราได้ตลอด ซึ่งที่จริงในคอร์สคนสอนเค้าได้สรุปประเด็นสำคัญๆ แนะนำเทคนิคไว้ให้แล้วด้วยภาษาดัตช์ที่เข้าใจง่ายแล้วล่ะคะ
อีก1เดือนสุดท้ายก่อนสอบ แอนซื้อแพ็กเกจฝึกทำแบบฝึกหัดออนไลน์โดยจะอ่านสรุปเนื้อหาแต่ละบทก่อนแล้วก็ทำแบบฝึกหัดท้ายบททำจนครบทุกหัวข้อ ให้ครบ ลงมือทำแบบฝึกหัดจนกว่าจะได้คะแนน มากกว่า 90% ขึ้นไป แล้วจึงลงมือทำตัวอย่างข้อสอบจริงแบบนี้จะทำให้เราได้คะแนนดีขึ้นตามลำดับ สัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมตัวไปสอบจริงแอนลุยทำตัวอย่างข้อสอบ ทุกวันอย่างน้อยวันละ 1-2 ชุด ตัวอย่างข้อสอบต่างจากแบบฝึกหัดท้ายบทก็คือ คำถามจะสุ่มรวมเหมือนเราไปสอบจริงมีการจับเวลา เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีดีมากขึ้น เราสามารถทำแบบฝึกหัดได้ทั้งบนมือถือ บนแท็บเล็ต และบนเครื่อง PC แอนลุยทำมันตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่ว่าจะช่วงนั่งรถบัสไปทำงาน ตอนกลับบ้าน ตอนก่อนนอน รีบตื่นนอนแต่เช้ามืดมาทำ เรียกว่าทำมันตลอดเวลา ถ้าล้า ถ้าเหนื่อย ก็พัก อย่าฝืน แทบจะฝันเป็นแบบฝึกหัดและข้อสอบกันเลยก็ว่าได้
TIP #3 เรียนรู้จากข้อผิดพลาด
หลังจากทำแบบฝึกหัดมาสักระยะ เวลาทำตัวอย่างข้อสอบจะมีการสรุปวิเคราะห์ว่าเราผิดตรงไหนเยอะบ้าง แล้วกลับไปทบทวนโน้ตย่อหรือเปิดหนังสือทบทวนของส่วนนั้นๆ capture หน้าจอ ข้อที่ทำผิด อ่านเฉลย และจะจดทุกๆครั้ง แบบนี้จะยิ่งทำให้แอนจำฝังใจได้ดีขึ้น คือ แอนเป็นประเภท เจ็บแล้วต้องจำ ผิดแล้วต้องจด แหะๆ
TIP #4 นำบทเรียนสู่ชีวิตจริง
ฝึกฝนในชีวิตประจำวัน คนส่วนใหญ่จะเรียนทฤษฎีให้ผ่านก่อนแล้วจึงลงเรียนขับรถ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เรียนขับรถควบคู่กับการเตรียมสอบทฤษฎีไปพร้อมกัน ซึ่งแอนก็เป็นคนส่วนหลังค่ะ อาจจะเป็นเพราะอยากได้ใบขับขี่ไวๆและมีประสบการณ์ในการขับรถมาแล้วจากไทยและอีกหนึ่งเหตุผลก็คือทำให้แอนจดจำป้ายจราจรและสถานการณ์ต่างๆได้ดียิ่งขึ้นเพราะได้เห็นและถามครู รวมถึงได้ฝึกใช้จริงๆ แต่ข้อจำกัดก็มีนะคะ คือถ้าสอบทฤษฎีไม่ผ่านเสียที ก็จะเสียค่าใช้จ่ายสำหรับชั่วโมงเรียนขับรถเยอะไปด้วย คือเพื่อนๆต้องเลือกดูด้วยนะคะว่าเราพร้อมแค่ไหน ถ้าไม่ได้เรียนไปพร้อมกัน เพื่อนก็ยังสามารถนำไปลองฝึกในชีวิตจริงได้ด้วยการสังเกตป้ายจราจร หรือนั่งคิดตามไปด้วยว่า ถ้าเราเป็นคนขับจะทำอย่างไรเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ในทุกครั้งเวลาที่นั่งรถไปไหนมาไหน
TIP #5 “You are what you think”
เชื่อมั่นในตัวเองว่าฉันทำได้ คุณทำได้เมื่อเขื่อว่าคุณทำได้
ขอให้มั่นใจ เชื่อในสิ่งที่เตรียมตัวมา แล้วเราจะทำมันได้แน่นอน แอนเชื่อเสมอแบบนี้ ไม่มีอะไรหนักหนา ถ้าเราจะสอบไม่ผ่านในครั้งเดียว เราสามารถทำได้ดียิ่งขึ้นอีกในครั้งถัดๆไป ก่อนวันสอบ เตรียมตัวเองให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ออกจากบ้านด้วย สติ และ ความเชื่อมั่นว่า “ฉันทำได้”
เรื่องสติ นี้ สำคัญมากเลยคะ แอน ว่า ตัวเองไม่ตื่นสนามแล้วนะ ดันเกือบมาตกม้าตาย ตอนออกจากห้องสอบ ดันลืมไปว่า เอาของส่วนตัว ไปใส่ไว้ในตู้ล๊อกเกอร์ไหนหว่า ดีนะยังพอจำได้ว่าใกล้จอทีวี และจำรหัสได้ พอดีออกมาคนท้ายๆ เพราะแอนเลือกสอบแบบซื้อเวลาเพิ่ม เลยมีตู้เหลิออยู่ไม่เยอะแล้ว แหมเกือบไปแล้วไหมล่ะ
ถ้าเพื่อนๆยังนึกภาพไม่ออกว่า ในสนามสอบภาคทฤษฏีเป็นอย่างไร ลองดูคลิปนี้ น่าจะช่วยให้เห็นภาพและลดความตื่นเต้นไปบ้าง